Last updated: 2 ต.ค. 2568 | 1658 จำนวนผู้เข้าชม |
ผักโขม (Spinach) หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า "ผักขม" เป็นผักใบเขียวที่เราพบเห็นได้บ่อยตามท้องตลาดและร้านอาหาร ผักโขมได้รับความนิยมเพราะอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และโปรตีนจากพืชที่ดีต่อสุขภาพ แต่ในขณะเดียวกัน หากรับประทานมากเกินไปก็อาจมีผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน บทความนี้จะพาคุณมาทำความรู้จักกับประโยชน์ของผักโขม รวมถึงโทษและข้อควรระวังในการรับประทานอย่างครบถ้วน
ผักโขมไม่ได้มีดีแค่เป็นผักใบเขียวธรรมดา แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่น่าสนใจ และถูกนำไปใช้ในเชิงสมุนไพรเพื่อสุขภาพมายาวนาน
ผักโขมอุดมด้วยธาตุเหล็ก แมกนีเซียม และวิตามินหลายชนิด ช่วยบำรุงกำลัง เสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกาย
คุณแม่หลังคลอดที่มีปัญหาน้ำนมไม่พอสามารถรับประทานผักโขมเพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำนมได้ โดยในผักโขมมีวิตามินเอและซี ที่ช่วยให้น้ำนมสมบูรณ์และมีคุณภาพมากขึ้น
ใยอาหารในผักโขมช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน ลดความอยากอาหาร อีกทั้งยังช่วยชะลอการดูดซึมไขมัน เหมาะสำหรับคนที่กำลังควบคุมอาหาร
ผักโขมมีสารที่ช่วยผ่อนคลายการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณมดลูก จึงช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้
นอกจากช่วยบำรุงน้ำนมแล้ว ผักโขมยังมีสารอาหารที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายคุณแม่หลังคลอด และส่งเสริมสุขภาพที่ดีของทารกน้อย
สารต้านอนุมูลอิสระในผักโขม เช่น ฟลาโวนอยด์ และแคโรทีนอยด์ ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งรังไข่
ผู้สูงอายุที่รับประทานผักโขมเป็นประจำ อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ได้ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ประสาทจากการเสื่อมสภาพ
ผักโขมมีโปรตีนจากพืชในปริมาณสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติและวีแกน
วิตามินเอและลูทีนในผักโขมช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา ป้องกันโรคต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อม
ผักโขมอุดมไปด้วยแคลเซียมและวิตามินซี ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน
สรุปแล้ว ผักโขมเป็นผักสารพัดประโยชน์ที่ควรมีติดบ้าน เพราะสามารถช่วยบำรุงสุขภาพได้รอบด้าน ตั้งแต่พลังงาน ภูมิคุ้มกัน ไปจนถึงการป้องกันโรคเรื้อรัง
แม้ผักโขมจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากเกินไป เนื่องจากอาจเกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ เช่น
ดังนั้น การรับประทานผักโขมให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรทานในปริมาณที่เหมาะสม และควรปรุงร่วมกับอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น มะเขือเทศ หรือส้ม เพื่อช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก
ผักโขมเป็นผักใบเขียวที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็ก เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินเอ และโฟเลต ซึ่งมีส่วนช่วยดังนี้
อย่างไรก็ตาม การให้เด็กกินผักโขมควรมีข้อควรระวัง คือ
ดังนั้น ผักโขมถือเป็นผักที่เหมาะสำหรับเด็ก หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมและปรุงอย่างถูกวิธี จะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตทั้งด้านร่างกายและสมองได้เป็นอย่างดี
ฟาร์มแกรนด์ ออแกนิค ได้พัฒนาผักโขมอินทรีย์ที่ปลูกได้ตลอดทั้งปี โดยใช้วิธีเกษตรปลอดสารเคมี เพื่อให้ได้ผักที่สด สะอาด และปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง และเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มองหาของว่างเพื่อสุขภาพ เราได้นำผักโขมอินทรีย์มาแปรรูปเป็น Crispy GO ผักโขมอินทรีย์อบกรอบ ที่ยังคงคุณค่าทางโภชนาการ และรับประทานง่าย เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพทุกวัย
ผักโขมเป็นผักใบเขียวที่อุดมด้วยคุณประโยชน์ ทั้งช่วยบำรุงกำลัง บำรุงน้ำนมแม่ ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง และยังดีต่อสายตาและกระดูก แต่ก็มีข้อควรระวัง เช่น ปัญหานิ่วในไตหากบริโภคมากเกินไป ดังนั้นควรทานในปริมาณพอดี และเลือกผักโขมอินทรีย์เพื่อความปลอดภัย หากใครกำลังมองหาของว่างเพื่อสุขภาพ ลองเลือก Crispy GO ผักโขมอินทรีย์อบกรอบ ที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพค่ะ
Q1 : ผักโขมกับผักขมเหมือนกันหรือไม่?
ผักโขมและผักขมคือผักชนิดเดียวกัน เพียงแต่คนไทยนิยมเรียกสั้น ๆ ว่า "ผักขม" ค่ะ
Q2 : ผักโขมกินดิบได้ไหม?
สามารถกินดิบได้ แต่ควรล้างให้สะอาดเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกหรือสารตกค้าง และไม่ควรกินมากเกินไปเพราะอาจมีกรดออกซาลิกสูง
Q3 : ผักโขมเหมาะกับใครบ้าง?
เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคุณแม่หลังคลอด คนที่ควบคุมน้ำหนัก และผู้สูงอายุที่ต้องการดูแลสุขภาพสมองและกระดูก
Q4 : กินผักโขมทุกวันอันตรายไหม?
หากกินในปริมาณเหมาะสมไม่เป็นอันตราย แต่หากกินมากเกินไปอาจเสี่ยงเกิดนิ่วในไตได้
Q5 : ผักโขมช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่?
ใช่ค่ะ เพราะผักโขมมีกากใยสูง ทำให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร และช่วยชะลอการดูดซึมไขมัน
Q6 : ทำไมผู้ป่วยไตควรระวังการกินผักโขม?
เพราะผักโขมมีโพแทสเซียมและกรดออกซาลิกสูง อาจกระทบต่อการทำงานของไตในผู้ป่วยโรคไต
Q7 : ผักโขมอินทรีย์ดีกว่าผักโขมทั่วไปอย่างไร?
ผักโขมอินทรีย์ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมีตกค้าง จึงปลอดภัยกว่าและมีความสดสะอาด เหมาะสำหรับผู้รักสุขภาพค่ะ
Q8 : ผักโขมเหมาะกับเด็กหรือไม่?
ผักโขมเหมาะสำหรับเด็กเพราะอุดมด้วยธาตุเหล็ก แคลเซียม และวิตามินเอที่ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต กระดูก และสายตา อย่างไรก็ตาม ควรปรุงให้สุกก่อนรับประทานเพื่อลดปริมาณกรดออกซาลิก และควรให้เด็กกินในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดนิ่วในไตค่ะ
23 พ.ค. 2567
11 มิ.ย. 2567