ถ้าคุณทำโรงงานผลิตอาหารหรือขนม ไม่ว่าจะเป็นโรงงานขนาดเล็ก โรงงานชุมชน โรงงาน OEM/ODM หรือกำลังวางแผนขยายไปขายโมเดิร์นเทรดหรือส่งออก คำว่า GHP และ GMP จะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ค่ะ แต่สิ่งที่พบได้บ่อยคือหลายโรงงานเข้าใจว่า 2 มาตรฐานนี้เหมือนกัน หรือคิดว่าแค่ “ทำความสะอาดให้ดูดี” ก็เพียงพอแล้ว สุดท้ายพอถึงวันตรวจจริงกลับไม่ผ่าน เพราะขาดระบบ ขาดหลักฐาน และควบคุมความเสี่ยงไม่สม่ำเสมอ
GHP (Good Hygiene Practices) คืออะไร ในมุมของโรงงานผลิตอาหาร
GHP (Good Hygiene Practices) คือแนวทางปฏิบัติด้านสุขอนามัยที่ดีในการผลิตอาหาร โดยมีเป้าหมายหลักคือ การป้องกันการปนเปื้อน ไม่ว่าจะเป็นเชื้อจุลินทรีย์ สิ่งแปลกปลอม สารเคมี หรือสารก่อภูมิแพ้ ในทุกขั้นตอนของการผลิต ตั้งแต่รับวัตถุดิบ การเตรียม การผลิต การบรรจุ การจัดเก็บ ไปจนถึงการขนส่งหัวใจของ GHP ไม่ใช่แค่ “ความสะอาด” แต่คือการทำให้ความสะอาดและความปลอดภัยเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบได้ และไม่ขึ้นกับตัวบุคคลในเชิงระบบ GHP ถูกมองว่าเป็น “รากฐานของความปลอดภัยอาหาร” และเป็นพื้นฐานก่อนจะพัฒนาไปสู่ระบบที่ซับซ้อนขึ้น เช่น HACCP หรือ ISO 22000 ค่ะ
ทำไม GHP ถึงกลายเป็นมาตรฐานที่โรงงานต้องให้ความสำคัญมากขึ้น
ในช่วงหลัง หน่วยงานกำกับ คู่ค้า และตลาดให้ความสำคัญกับ GHP มากขึ้น เพราะพบว่าปัญหาอาหารไม่ปลอดภัยจำนวนมาก ไม่ได้เกิดจากกระบวนการผลิตซับซ้อน แต่เกิดจากสุขอนามัยพื้นฐานที่ควบคุมไม่ดี เช่น- คนเดินข้ามโซนโดยไม่เปลี่ยนชุด
- การล้างทำความสะอาดไม่มีมาตรฐานเดียวกัน
- ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าทำความสะอาดจริงทุกวัน
GHP จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือวัดว่าโรงงานนั้น “ควบคุมความเสี่ยงพื้นฐานได้จริงหรือไม่”
GMP คืออะไร และบทบาทของ GMP ในโรงงานอาหาร
GMP (Good Manufacturing Practice) คือหลักเกณฑ์และวิธีการผลิตที่ดี ซึ่งใช้เป็นข้อกำหนดในการควบคุมสถานที่ผลิตอาหาร ตั้งแต่โครงสร้างอาคาร เครื่องมือ กระบวนการผลิต การจัดเก็บ การขนส่ง ไปจนถึงการควบคุมคุณภาพในทางปฏิบัติ GMP มักถูกใช้เป็น เกณฑ์การตรวจประเมิน เพื่อดูว่าโรงงานมีความพร้อมในการผลิตอาหารเพื่อจำหน่ายหรือไม่ และปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องครบถ้วนหรือเปล่าถ้าพูดให้เห็นภาพง่าย ๆ- GMP คือกรอบข้อกำหนดและมาตรฐานการผลิต
- GHP คือระบบสุขอนามัยที่ทำให้การผลิตปลอดภัยจริงในชีวิตประจำวัน

GHP ต่างจาก GMP ยังไง แบบที่ผู้ประกอบการเข้าใจและใช้ตัดสินใจได้
หลายคนเข้าใจว่า GHP กับ GMP เป็นคนละเรื่อง แต่ในความจริง ทั้งสองระบบเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด และมักถูกใช้ควบคู่กันในโรงงานอาหาร
ความแตกต่างในเชิงแนวคิด
- GHP เน้นการป้องกันการปนเปื้อนด้านสุขอนามัยในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
- GMP เน้นการควบคุมกระบวนการผลิตและสถานที่ให้เป็นไปตามข้อกำหนดที่กำหนดไว้
ความแตกต่างในมุมผู้ตรวจ
“พนักงานเปลี่ยนจากโซนเตรียมวัตถุดิบไปโซนบรรจุทำอย่างไร” นี่คือประเด็นของ GHP “โรงงานนี้ปฏิบัติตามข้อกำหนดสถานที่ผลิตอาหารครบถ้วนหรือไม่” นี่คือประเด็นของ GMP
สรุปสั้น ๆ ให้จำง่าย
- GHP = สุขอนามัยที่ทำจริงทุกวัน
- GMP = ข้อกำหนดและกรอบการผลิตที่ใช้ตรวจประเมิน
โรงงานที่แข็งแรงต้องมีทั้งสองอย่างค่ะ
ทำไมโรงงานผลิตอาหารและขนม “ต้องมี” GHP
ก่อนเข้าสู่รายการหัวข้อ อยากให้เข้าใจว่า GHP ไม่ได้มีไว้เพื่อ “ผ่านตรวจครั้งเดียว” แต่มีผลโดยตรงต่อความอยู่รอดของธุรกิจ
ลดความเสี่ยงอาหารปนเปื้อนและการเรียกคืนสินค้า
อาหารและขนมเป็นสินค้าที่มีความเสี่ยงสูง หากเกิดการปนเปื้อนแม้เพียงเล็กน้อย อาจนำไปสู่- ความเสียหายต่อแบรนด์ในระยะยาว
GHP ช่วยให้โรงงานรู้ว่า “จุดเสี่ยงอยู่ตรงไหน” และควบคุมความเสี่ยงเหล่านั้นอย่างเป็นระบบ
ลดต้นทุนแฝงที่มองไม่เห็น
โรงงานที่ไม่มีระบบ GHP มักเสียต้นทุนจาก- เวลาที่สูญเสียไปกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
การมี GHP ที่ดีทำให้กระบวนการผลิตนิ่งขึ้น และช่วยลดต้นทุนในระยะยาวได้จริง
เพิ่มความน่าเชื่อถือกับคู่ค้าและตลาด
สำหรับโรงงานที่รับผลิต OEM/ODM หรืออยากเข้าห้าง โมเดิร์นเทรด คู่ค้ามักมองหา- การควบคุมความเสี่ยงที่ตรวจสอบได้
- ความพร้อมต่อยอดไปสู่ HACCP
GHP ที่ทำดีจะช่วยให้การเจรจาทางธุรกิจง่ายขึ้นมากค่ะ
หัวใจของ GHP ที่โรงงานอาหารและขนมควรทำให้ครบ
ก่อนเข้ารายการ อยากย้ำหลักสำคัญว่าGHP ที่ดีต้องมีทั้ง “การปฏิบัติจริง” และ “หลักฐานยืนยัน”- การแบ่งโซนและการไหลของคน–วัตถุดิบ–สินค้า
ต้องแยกโซนสกปรก โซนสะอาด โซนบรรจุให้ชัด ลดการเดินตัดกัน และควบคุมการเปลี่ยนโซนอย่างเหมาะสม สรุปคือ ลดโอกาสการปนเปื้อนตั้งแต่โครงสร้างการทำงาน กำหนดกติกาเรื่องการแต่งกาย การล้างมือ การเจ็บป่วย และการเข้า–ออกพื้นที่ผลิตอย่างชัดเจน ปิดท้ายคือ ต้องสอนและตรวจจริง ไม่ใช่แค่ติดป้าย- การทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อ
ควรมีแผนที่ระบุว่า ใครทำอะไร เมื่อไหร่ ใช้อะไร และตรวจสอบอย่างไร การล้างแบบมีมาตรฐานช่วยลดความเสี่ยงได้มากกว่าการล้างตามความเคยชิน- การควบคุมวัตถุดิบและการรับเข้า
มีเกณฑ์รับวัตถุดิบชัดเจน และมีการกักกันวัตถุดิบที่ไม่ผ่านเกณฑ์ จุดนี้ช่วยกันปัญหาตั้งแต่ต้นทาง- การจัดเก็บและการควบคุมสภาพแวดล้อม
อุณหภูมิ ความชื้น และการจัดเรียงสินค้ามีผลต่อคุณภาพและความปลอดภัยโดยตรง- การควบคุมสารก่อภูมิแพ้ (สำคัญมากในโรงงานขนม)
ต้องแยกการจัดเก็บ อุปกรณ์ และมีแนวทางทำความสะอาดระหว่างการเปลี่ยนสูตรอย่างชัดเจน- การควบคุมศัตรูพืชและของเสีย
ไม่ใช่แค่กำจัด แต่ต้องป้องกันการเข้ามาในพื้นที่ผลิต และจัดการของเสียไม่ให้ย้อนกลับเข้าสู่ไลน์ผลิต
หัวใจของ GHP ที่โรงงานอาหารและขนมควรทำให้ครบ
- เริ่มจากประเมินช่องโหว่จริงในโรงงาน
- จัดโซนและการไหลให้ชัดเจนก่อนเขียนเอกสาร
- ทำแผนทำความสะอาดที่ทำได้จริง
- ทำบันทึกเท่าที่จำเป็น ไม่ซับซ้อนเกิน
- อบรมพนักงานแบบสั้น แต่สม่ำเสมอ

มาสร้างแบรนด์กับ “Grand Organic” ได้มาตรฐาน GHP และ HACCP
อยากเริ่ม สร้างแบรนด์ของกินเพื่อสุขภาพของตัวเอง แต่ติดปัญหางบจำกัด หรือไม่รู้จะเริ่มตรงไหน?
Grand Organic พร้อมช่วยคุณค่ะ
เราเป็น โรงงานรับผลิตขนมและอาหารเพื่อสุขภาพ (ODM/OEM) ที่เน้นวัตถุดิบจากธรรมชาติ พัฒนาสูตรไม่ซ้ำใครในตลาด ให้แบรนด์คุณโดดเด่นและแตกต่าง
ทำไมต้อง Grand Organic?
- MOQ ไม่สูง ทดลองตลาดได้ก่อน ลดความเสี่ยงลงทุน
- พัฒนาสูตรและบรรจุภัณฑ์ครบวงจร
- รองรับการขยายกำลังการผลิตในอนาคต
- ผลิตภายใต้มาตรฐาน GHP, HACCP, อย., Halal, Organic
ผลงานที่ผ่านมา
จากโปรตีนจิ้งหรีด มันม่วง ไข่ขาว ไปจนถึงผักโขม เราเคยพัฒนาผลิตภัณฑ์มาแล้วหลากหลาย เช่น วาฟเฟิลกรอบ ข้าวอบกรอบ เจลลี่ แผ่นผักอบกรอบ ซึ่งได้รับการรับรองคุณภาพระดับสากล
**เริ่มง่าย ๆ แค่พัฒนาสูตรกับเรา ก็ได้ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ + เลข อย. พร้อมบาร์โค้ดสากล ทดลองขายได้ทันที
Grand Organic – ตัวจริงด้าน ODM/OEM อาหารเพื่อสุขภาพ ที่ช่วยให้คุณมีแบรนด์เป็นของตัวเองได้ แม้งบน้อย
ติดต่อสอบถาม คลิก
สรุป
GHP คือรากฐานของความปลอดภัยอาหาร ที่ทำให้โรงงานควบคุมการปนเปื้อนได้จริงในชีวิตประจำวัน
GMP คือกรอบข้อกำหนดการผลิต ที่ใช้ตรวจประเมินความพร้อมของสถานที่ผลิตอาหาร
โรงงานอาหารและขนม ที่อยากเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ควรทำ GHP แค่เพื่อผ่านตรวจ แต่ควรทำให้เป็น “วิธีการทำงานประจำ” ของทั้งองค์กร
หากคุณกำลังวางแผนยกระดับโรงงาน แนะนำให้เริ่มจากการทำ GHP ให้แข็งแรงก่อน แล้วค่อยต่อยอดไปสู่ HACCP หรือมาตรฐานอื่น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยง ประหยัดต้นทุน และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้ในระยะยาวค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ GHP
Q1 : GHP จำเป็นต้องมีเอกสารมากแค่ไหน
ต้องมีเอกสารเท่าที่พิสูจน์ได้ว่ามีการควบคุมสุขอนามัยจริง เช่น แผนทำความสะอาด บันทึกอุณหภูมิ และบันทึกการตรวจสอบ ไม่จำเป็นต้องหนา แต่ต้องสม่ำเสมอ
Q2 : โรงงานขนาดเล็กต้องทำ GHP ไหม
ต้องทำค่ะ แต่สามารถปรับระดับให้เหมาะกับขนาดและความเสี่ยงของโรงงานได้
Q3 : GHP กับ GMP เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งได้ไหม
ไม่แนะนำ เพราะทั้งสองระบบทำงานเสริมกัน หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่งจะเกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
Q4 : ทำ GHP แล้วต้องทำ HACCP ต่อหรือไม่
ขึ้นกับความเสี่ยงของสินค้า หากกระบวนการผลิตมีจุดเสี่ยงสูง HACCP จะช่วยควบคุมได้ดีขึ้น
Q5 : โรงงานขนมมักพลาดเรื่องใดในการทำ GHP
มักพลาดเรื่องการแบ่งโซน การทำความสะอาดที่ไม่สม่ำเสมอ และการควบคุมสารก่อภูมิแพ้
Q6 : GHP ช่วยเรื่องการขายได้จริงหรือไม่
ช่วยได้จริง เพราะเพิ่มความเชื่อมั่นให้คู่ค้าและผู้บริโภค โดยเฉพาะตลาดที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยอาหาร
Q7 : ใช้เวลานานแค่ไหนในการเตรียม GHP
ขึ้นกับสภาพโรงงาน หากพื้นฐานดีอาจใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ แต่หากต้องปรับโครงสร้างอาจใช้เวลาหลายเดือนค่ะ